กระจกรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นแบบใด รุ่นใด หรืออยู่ส่วนไหนของรถยนต์ก็ตาม จะเรียกกระจกจำพวกนี้ว่า ‘กระจกนิรภัย’ โดยกระจกนิรภัยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. กระจกนิรภัยแบบชั้นเดียว (Tempered Safety Glass) กระจกนิรภัยชั้นเดียวหรือกระจกนิรภัยเทมเปอร์ สำหรับรถยนต์ มีคุณสมบัติในด้านความปลอดภัย โดยมีลักษณะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ คล้าย เมล็ดข้าวโพด เมื่อแตกส่วนที่อยู่บริเวณกลางกระจกในระดับสายตาของผู้ขับขี่รถยนต์ จะมีลักษณะเป็นเม็ดใหญ่กว่าบริเวณอื่นๆ ของตัวกระจกเพื่อความสะดวกในการมอง เรียกบริเวณนี้ว่า โซนเทมเปอร์ (ZONE TEMPER) กระจกชนิดนี้จะไม่แหลมคมเหมือนกระจกธรรมดาตามอาคารบ้านเรือน
2. กระจกนิรภัยแบบหลายชั้น (Laminated Safety Glass) กระจกนิรภัยหลายชั้นหรือกระจกนิรภัยลามิเนท เป็นกระจกที่ผลิตขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้ความปลอดภัยสูงแก่ผู้ใช้รถยนต์ โดยการนำเอากระจก 2 แผ่น มาอัดติดกันโดยมีแผ่นฟิล์ม (Polyvinyl Butyral) ที่เหนียวและแข็งแรงซ้อนอยู่ระหว่างกลางยึดเกาะมิให้เศษกระจกหลุดออกมาทำอันตรายผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร กระจกชนิดนี้เมื่อแตกจะยังคงรูปเหมือนเดิม จะมีเพียงรอยสะเกล็ดของเนื้อกระจกที่กะเทาะออก รอยแตกร้าว หรือรอยแผลขนาดใหญ่คล้าย ใยแมงมุม 🕸 เท่านั้น ปัจจุบันรถยนต์เกือบทุกรุ่น ที่ออกจากโรงงานประกอบรถยนต์ จะติดตั้งกระจกบังลมหน้ารถยนต์ ด้วยกระจกนิรภัยประเภทนี้
ข้อดีของการใช้กระจกนิรภัยหลายชั้น (เช่นแบบ 2 ชั้น)
– เมื่อกระจกแตกจะไม่มีเศษกระจกหลุดออกมาทำอันตรายผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร
– เมื่อกระจกแตก ยังคงมองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจนเกือบเหมือนเดิม
– เมื่อกระจกแตกร้าวยังคงใช้งานได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทันทีในขณะนั้น คือกระจกยังคงรูปเหมือนเดิม ยังสามารถป้องกัน ลม ฝุ่น น้ำ ได้
– ผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่ จะไม่ได้รับอันตรายร้ายแรง ในกรณีผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร กระแทกกับกระจก ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ